การตระหนักรับรู้ (Self-awareness) เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาตนเองและสร้างชีวิตที่สมดุล มันช่วยให้เราเข้าใจตัวตน และปฏิบัติต่อสิ่งต่างๆ อย่างมีสติ ส่งผลต่อหลายแง่มุมของชีวิต
1.ช่วยเพิ่มความสงบและลงความเครียด การรับรู้ถึงความคิดและอารมณ์ช่วยให้เราปล่อยวางจากสิ่งที่ทำให้กังวล ยิ่งเราอยู่กับปัจจุบันมากเท่าไหร ความเครียดจากอดีตและอนาคตจะลดลง ตัวอย่าง เมื่อโกรธ เราตระหนักว่าความโกรธเป็นแค่ชั่วคราวเราจึงไม่ปล่อยให้อารมณ์นั้นควบคุมเรา => อย่าพยายามให้ตัวเองเป็นคนเพอร์เฟคในการฝึกปฏิบัติ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ใครก็ไม่สามารถหยิบยกความสำเร็จการทำสมาธิให้จิตเบาสบายนี้ให้กับคุณได้ มันจะค้นพบได้เมื่อทดลองทำด้วยตัวคุณเอง สิ่งที่เราทำมันคือความเบา คือความสุขณ.ตอนนี้ ทำให้ตัวเองมันได้เบาภาระกิจทางโลกเด๊วมันต้องจัดการมันต้องแก้ไขอยู่แล้ว ยิ่งไล่ล่า มันยิ่งเหนื่อย ยิ่งไล่ล่ายิ่งไม่ได้ ยิ่งไล่ล่ายิ่งผิดหวัง ออกจากความทุกข์ด้วยการตระหนักรับรู้ (Self-awareness) ปล่อยให้มันเป็นอิสระอย่าไปว่ายทวนกระแสน้ำ เมื่อคุณสัมผัสเห็นมันได้คุณจะเกิดความประหลาดใจ ไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีที่จะต้องไป ณ จุดใดจุดหนึ่งคือเดี๋ยวนี้!!!
การตระหนักรับรู้คือการกระทำ การทำสมาธิด้วยการตระหนักรับรู้ คือการเฝ้าดูความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง
เรากำลังไปณ.จุดใดจุดหนึ่งเราพยายามที่จะผลิตสิ่งใหม่ขึ้นมาเพื่อจะเดินทางไปหาณ.จุดใดจุดหนึ่งแต่สุดท้ายที่เราเจอคือความทุกข์ทรมานนั่นคือความอยากจะไปให้ได้ณ.จุดใดจุดหนึ่ง จิตมันไม่ได้อยู่บ้าน!!! จิตมันพยายามวิ่งไปในอนาคตที่รอวันนึงที่มันจะมาถึง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่มันไม่ได้ตอบสนองณ.ตอนนั้น ตัวเราเองเกิดความทุกข์ ความกังวล เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต ยิ่งปล่อยให้ข้างในมีแต่ความวุ่นวายมีแต่พายุลูกใหญ่ที่พัดผ่านข้างใน ตัวเราก็เฝ้าถามหาว่า “มันคืออะไรหลงทางใช่มั้ย” มันคืออะไรนี่แหละคือต้นตอความทุกข์
2.ช่วยให้เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง การตระหนักรู้ช่วยให้เราสำรวจความต้องการ ความชอบ และจุดอ่อนของตัวเอง มันเปิดโอกาสให้เราปรับปรุงพฤติกรรม และการตัดสินใจ ตัวอย่าง ถ้าเราตระหนักว่าเรามักฟุ้งซ่าน เราสามารถวางแผนจัดการเวลาได้ดีขึ้น => ตามดูไม่ต้องไปปรุงแต่งอะไรกับมัน ตามดูเฉยๆ ไม่ต้องยึดติด แค่เพียงเสี่ยววิที่คุณรู้สึกดี นั่นก็เพียงพอแล้วนะ หมั่นมีสติอยู่กับตัวเองฝึกบ่อยๆ
3. ช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ การเข้าใจตัวเองทำให้เราสามารถแสดงออกและเข้าใจผู้อื่นได้ดีขึ้น เราเรียนรู้ที่จะฟัง และตอบสนองต่อความรู้สึกของผู้อื่นด้วยความเข้าใจ ตัวอย่าง การรู้ว่าตัวเองต้องการความเงียบในบางช่วง ช่วยลดความขัดแย้งกับคนรอบข้าง => เมื่อคุณเข้าใจตัวเองคุณก็จะเข้าใจผู้อื่นโดยอัตโนมัติ โลกมันเปลี่ยนมาจากคุณก่อนคุณสร้างออกมาจากโลกภายในของคุณก่อน เมื่อพลังงานคุณดีคนรอบข้างก็จะสัมผัสสิ่งนั้นได้เอง หรือคุณฝึกจนความรู้สึกคุณดี แต่จู่มีใครก็ไม่รู้มาทำให้ความรู้สึกคุณไม่ดีก็ช่างเขาคุณต้องดูแลความรู้สึกของตัวเอง คุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมาไม่ต้องเพอร์เฟค ยิ่งเราถามหาความเฟอร์เฟคมากเท่าไหร่เราจะยิ่งไม่เจอมัน ความสงบอยู่กับคุณอยู่แล้วความเบาอยู่กับคุณอยู่แล้วแต่มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าทัศนวิสัยคุณยังเฝ้าคิดอยู่กับความกังวล กลับมาอยู่กับตัวเองฝึกตระหนักรับรู้มัน คุณต้องปล่อยให้กลไกมันทำงาน แล้วมันจะหายไปจากคุณเอง ปลดปล่อยใจให้มันเป็นอิสระ ค่อยๆ ตระหนักเริ่มจากจุดเล็กๆ
4. ช่วยพัฒนาทักษะการตัดสินใจ เมื่อเราตระหนักถึงเป้าหมายและคุณค่าของตัวเอง เราจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น การตระหนักถึงผลกระทบของการกระทำช่วยให้เราทำสิ่งที่สอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริง ตัวอย่าง หากเรารู้ว่าการตัดสินใจแบบรีบเร่งมักทำให้ผิดพลาด เราก็จะเรียนรู้ที่จะชะลอและคิดให้รอบคอบ => คุณเคยมีความคิดอะไรบางสิ่งบางอย่างแล้วคุณทำตามเลยป่ะ คุณไม่เคยหยุดที่จะพิจารณาถึงมันคุณไม่เคยหยุดที่จะวิเคราะห์กับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในของคุณ โลกภายในจุดเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคุณมันมาจากตรงนั้น มีเป้าหมายทางโลกคือคุณรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องทำอะไร สร้างความสงบให้กับตัวเองและรู้หน้าที่ว่าตัวเองต้องทำอะไร ฝึกตระหนักรับรู้ให้จิตเบา มันเหมือนการดึงตัวเองออกมาจากขุมนรก คุณเป็นทุกข์อยู่ทุกวันคุณกังวลคุณเศร้าอยู่ทุกวัน คุณหวาดระแวงหวาดกล้วจิตหวาดกลัว การตระหนักรับรู้เพื่อไม่ให้ตัวเองจะต้องไปตกอยู่ในสภาวะดำดิ่ง คุณมีเป้าหมายอยู่แล้วนี่คุณก็ไปทำสิแต่อย่าลืมการตระหนักรับรู้ ให้ความรู้สึกยินดี ปิติยินดี ความรู้สึกเบา รู้สึกสงบให้มันเกิดขึ้นกับคุณให้บ่อยที่สุดให้บ่อยที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ คุณจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวคุณเอง ไม่มีใครสามารถหยิบยกเส้นทางความสำเร็จมาให้คุณได้ ต่อให้ได้คุณก็จะไม่เข้าใจในความสำเร็จตรงนั้นอยู่ดี ลองทำมันเล่นๆ ด้วยความสนุกไม่ต้องซีเรียสอะไร ที่ไหนก็ได้มันไม่ได้มีเครื่องมืออุปกรณ์ คุณแค่ต้องหันหน้ากลับเข้าไปหามัน มันอยู่ใกล้คุณแค่นี้ คุณตระหนักรับรู้ดูด้วยความผ่อนคลายคุณก็จะได้ผ่อนคลาย เห็นผลเลยในชาตินี้ มันเห็นผลเลยเดี๋ยวนี้
5.สร้างความสุขจากภายใน การตระหนักรู้ทำให้เราเชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริงและพบความสุขที่ไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก ตัวอย่าง การขอบคุณในสิ่งเล็กๆ รอบตัว เช่นการได้พักผ่อน หรือการได้อยู่กับคนที่รัก => คุณต้องฝึกทดลองด้วยตัวคุณเองทำให้จิตคุณเบา เมื่อจิตเบาจิตสงบมันก็จะเห็นทางออกของปัญหาในหลายๆ อย่างที่คุณเฝ้าถามหา และอยากแก้ไขมัน ลดอัตตาตัวเองลงมาบ้างสิ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในวันนี้เนี้ยมันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณจะกล่าวคำขอบคุณ ฉันได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ขอบคุณที่ทำให้ฉันได้เติบโตทางจิตวิญญาณ ขอบคุณ ขอบคุณ พลังเล็กน้อยต่างๆ เหล่านี้เป็นเมล็ดพันธุ์ในการงอกงาม ตื่นเช้าให้ขอบคุณเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันจะทำให้คุณงอกงาม เอาพลังใจข้างในก่อนแล้วไปทำเป้าหมายข้างนอกเป้าหมายทั้งโลก อย่าไปทำเป้าหมายทั้งโลกแล้วคุณจะมีแต่ความสุขเพราะคุณไม่แบ่งแยกคุณไม่แตกแยกจากข้างใน ไอ้นี่คือความสุขไอ้นี่คือความทุกข์ไม่ได้ต้องแบ่งไม่ต้อง เป็นหนึ่งเดียวกับมันจงใช้หัวใจในการเดินทางอย่าใช้หัวคิดอย่าใช้ตรรกะ มันคือเรื่องของจินตนาการคือเรื่องของศิลปะ นอกกรอบ คุณอาจจะได้ยินสังคมพูดว่าชีวิตมันต้องเป็นทุกข์ ชีวิตมันต้องเศร้า นั่นคือโลกสังคมคุณอย่าใช้ชีวิตอยู่ในโลกสังคม!!! อย่าใช้ตรรกะอย่าใช้เหตุผลมากจนชีวิตขาดสมดุล จงใช้หัวใจในการเดินทางมีแต่คุณเท่านั้นแหละที่จะเห็นมัน มีแต่คนที่กลับไปทดลองมันเท่านั้นแหละที่จะเห็นมัน
สรุป การตระหนักรับรู้เป็นพลังที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง ลดความเครียด สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เมื่อเราเชื่อมโยงกับตัวเองได้ดี เราก็จะดำเนินชีวิตด้วย ความมั่นใจและมีความสุขในทุกวัน “เริ่มต้นวันด้วยการตระหนักรู้ แล้วคุณจะพบเส้นทางที่ชัดเจนขึ้นในทุกย่างก้าว” => ขอให้ตัวเองรู้สึกดี นั่นคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด ขอให้ตัวเองได้เบานั่นคือล้ำค่าที่สุดแล้ว คุณเองก็ทำมันได้ คุณเองก็สงบได้ คุณเองก็เบาได้ลึกลงไปแล้วเราเหมือนกันเราต่างกันแค่รูปทรงภายนอกเท่านั้น คุณถึงเข้าใจในสิ่งนี้ เพราะข้างในเราเหมือนกันเราไม่สามารถที่จะเฝ้ารอ และพลาดโอกาสดีๆ ในที่นี้คือโลกภายในของคุณสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ได้อย่างมากมาย คุณคิดว่าชีวิตของฉันจะต้องผูกขาดกับเรื่องบางอย่าง กับตรงนั้นกับตรงนี้ตั้งแง่ตั้งเงื่อนไขต่างๆ นานา จนทำให้มนุษย์โลกยิ่งกลายเป็นวุ่นวายขึ้นไปทุกที มันคือ ความธรรมดาที่แสนวิเศษ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ChatGPT และกัลยาณมิตร ครีเอทีฟฮัฟ