ถ้าลูกของคุณคนนึงสอบได้เกรดเฉลี่ยเพียง 1.04 และเป็นอันดับรั้งท้ายของห้อง คุณจะบอกกับลูกคุณว่ายังไงครับ?
นี่เป็นคำถามน่าคิด ยิ่งถ้าในบรรดาลูกของเราทั้งหมดเรียนเก่ง ได้เกียรตินิยม หรือไม่ก็ได้ทุนเรียนต่างประเทศกันหมดแต่ดันมีลูกคนนึง ตอนม.3 โดนอธิการเชิญออกจากโรงเรียน และต้องเรียนซ้ำชั้นตั้งแต่ม.1 ใหม่ทั้งหมด 3 ปี
คุณจะคุยกับลูกคนนี้ยังไง?
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวัยเด็กของ”บอย โกสิยพงษ์”
เจ้าพ่อนักแต่งเพลงรักที่เรารู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็น ฤดูที่แตกต่าง, ลมหายใจ, Live and Learn ฯลฯ แน่นอนครับ
พี่บอยในตอนนั้นคงรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง คำว่า loser (ไอ้ขี้แพ้) คือ คำที่เขาใช้เรียกตัวเองในวัยเด็ก พี่บอยไม่ใช่คนเกเรเลยได้เกรดไม่ดีนะครับ ตรงกันข้าม เขาตั้งใจท่องหนังสือด้วยซ้ำ “ผมฉีกหนังสือเป็นเล่มๆ ออกมาทีละบท
เพื่อจะมานั่งอ่านทีละหน้า แต่มันไม่รู้เรื่อง ผมโคตรพยายาม แต่ตอนสอบ มันทำไม่ได้”…พี่บอยกล่าวไว้แทนที่แม่จะว่าหรือดุที่ผลการเรียนไม่ดี แม่ของพี่บอยกลับบอกว่า…
“โรงเรียนนี้น่าจะไม่เหมาะสำหรับบอยหรอก
เขาน่าจะสอนไม่เก่ง
เดี๋ยวไปหาโรงเรียนที่มันเหมาะกับบอยดีกว่านะ”
“ดีแล้วที่บอยเรียนไม่เก่งแบบพี่น้องคนอื่นๆ
เพราะตอนเด็ก แม่โง่มากเลย
การบ้านแม่ก็ทำไม่ได้ สอบก็ไม่ได้
ลอกเพื่อนประจำเลย
เพราะฉะนั้น แม่ก็จะได้มีบอย เป็นเพื่อนสักคนหนึ่งในบ้านที่เป็นเหมือนแม่”
คำพูดนี้ของแม่ทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
รู้สึกว่าโง่เหมือนแม่ก็ดีนะเนี่ย พี่บอยว่าไว้แล้วพี่น้องในบ้านเดียวกันล่ะ?
คุณคงสงสัยใช่มั้ย…ว่าเค้ามีปฏิกิริยาอย่างไร?
ถ้าเป็นครอบครัวทั่วไป คงมีการหยอกล้อกันบ้างแหละ แต่ในครอบครัวพี่บอย พี่น้องอีก 4 คนไม่มีใครซ้ำเติมกันพวกเค้าใช้ชีวิตปกติราวกับไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ทุกคนในครอบครัวของพี่บอยไม่ยอมให้อะไรเข้ามาทำลายบรรยากาศที่นิ่งสงบ และอบอุ่นของครอบครัวได้เลย หลังจากที่มีปัญหามากมายกับการเรียนในไทยจุดพลิกผันของพี่บอยคือ การตัดสินใจไปเรียนต่อทางด้านดนตรีที่ University of California at Los Angeles (UCLA) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นั่นพี่บอยได้เรียนทั้งในเรื่องการแต่งเพลงด้านดนตรี Electronics และธุรกิจด้านดนตรี พอความรักและหลงใหลด้านดนตรีของพี่บอยมาเจอกับการศึกษาที่ตรงจริต พี่บอยเรียนจบ 3 หลักสูตรในเวลา 5 ปี ด้วยเกรดเฉลี่ยมี A- ตัวเดียว ที่เหลือ คือ A ทั้งหมด!!!
พี่บอยให้สัมภาษณ์ว่า…
“ทั้งหมดนี้ไม่ได้มาจากการตั้งใจเรียนเลย
มันมาจากการที่ผมรักมันสุดหัวใจ
อยากรู้อยากเห็น อยากเข้าใจไปหมด
ผมไม่เคยท่องหนังสือ แต่อ่านมันจนเข้าใจ
ผมเพิ่งเข้าใจคำพูดที่พ่อเคยบอกอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก
หัวใจเราอยู่ที่ไหน
ทรัพย์สมบัติเราก็อยู่ที่นั่น”
นี่คือตัวอย่างของเด็กที่อาจจะมีความถนัดไม่ตรงกันกับ สิ่งที่โรงเรียนใช้วัดความสามารถนะครับ ศาสตราจารย์ Howard Gardner นักจิตวิทยา มหาวิทยาลัย Harvard อธิบายว่า… สติปัญญาของมนุษย์มีความสามารถ
โดดเด่นแตกต่างกันได้ 8 สาขา
- ปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
- ปัญญาด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Logical- Mathematical Intelligence)
- ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ (Visual-Spatial Intelligence)
- ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily Kinesthetic Intelligence)
- ปัญญาด้านดนตรี (Musical Intelligence)
- ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
- ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
- ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence)
ดังนั้น เด็กที่ได้เกรดไม่ดีจากโรงเรียน ก็ไม่ได้หมายความว่า… เค้าไม่เก่งนะครับ เพียงแค่เค้าอาจจะเก่งด้านอื่นที่ทางโรงเรียนไม่ได้วัดด้านนั้นก็ได้ ดังนั้น พ่อแม่ควรจะสังเกตความถนัดของเด็ก แล้วส่งเสริมด้านนั้นของเด็กต่อไปครับ เฟียตอยากเผยแพร่บทความนี้เพราะอาจจะมีเด็กอีกหลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนพี่บอยในตอนเด็ก อย่าคิดไม่ดีกับตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองโง่นะครับ คนเราน่าจะมีสักด้านที่เราถนัด เพียงแต่เราต้องหาด้านนั้นให้เจอ แล้วก็เรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อไปให้สุดในด้านที่ถนัดครับ
ขอบคุณบทสัมภาษณ์คุณบอย
จาก The Standard, นิตยสาร A Day และบทความจากครูเฟียต
ดีมากๆ มีลูกหลานควรอ่านมากๆเลยนะครับ ครอบครัวสำคัญจริงๆ โดยเฉพาะทัศนคติของคุณพ่อคุณแม่ที่มีต่อลูกๆ ควรค่าต่อการแชร์และบันทึกไว้ พ่อน้องเซน
สามารถอ่านบทความเต็มได้ที่ https://thestandard.co/boyd-kosiyabong/